สาว ๆ ทุกคน ใครล่ะอยากจะมีหน้าอกหย่อนคล้อย ปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อย นมคล้อย นมยาน หน้าอกไม่กระชับ ไม่ว่าหน้าอกเล็ก หรือหน้าอกใหญ่ก็สามารถประสบปัญหานี้ได้ ดังนั้น วันนี้ Amara Clinic จะมาให้สาระความรู้ เพื่อตอบคำถามที่ว่า “หน้าอกหย่อนคล้อยทำไงดี??” ถ้าพร้อมแล้ว ไปอ่านกันต่อได้เลยค่ะ
วิธีแก้ไขหน้าอกคล้อย แก้นมยาน ที่เป็นที่นิยมมากในอดีต คือการผ่าตัดยกกระชับหน้าอก ผลลัพธ์ที่ได้คือหน้าอกกระชับขึ้นในทันที แต่ก็มีข้อเสียคือรอยแผลเป็น และความเสี่ยงมากมาย ในปัจจุบันจึงไม่ค่อยได้รับความนิยมนัก แต่รู้ไหมคะว่า ในปัจจุบันนี้ มีเทคนิคใหม่ในการแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยของหน้าอกอย่างปลอดภัย อีกทั้งยังไม่มีแผลเป็นอีกด้วย
วิธีดังกล่าวคือ การเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง การฉีดไขมันหน้าอก หรือฉีดไขมันที่นมจะช่วยให้หน้าอกกระชับตัวขึ้น หน้าอกเต่งตึง หน้าอกอึ๋ม เป็นทรงสวยงาม และเป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นการนำไขมันของตัวเราเองมาเติมเต็ม ไม่มีสิ่งแปลกปลอม จึงมีความปลอดภัยสูง ที่สำคัญคือช่วยให้สัดส่วนบริเวณที่มีไขมันส่วนเกินมากเล็กลงได้ ใครที่สงสัยว่าการฉีดไขมันเสริมอกดีไหม? หรืออยากหน้าอกสวย แต่ยังกล้า ๆ กลัวอยู่ จะแก้ปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยด้วยวิธีไหนดี วันนี้ Amara Clinic จึงจะมาคลายข้อสงสัย และอธิบายว่าวิธีการรักษาหน้าอกหย่อนคล้อยมีกี่แบบค่ะ
หน้าอกหย่อนคล้อย เกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง?
ปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อย จะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หน้าอกยานเกิดจากการยืดตัวของเนื้อบริเวณหน้าอก ทำให้หน้าอกเสียรูปทรง สูญเสียความแน่นกระชับ โดยมีสาเหตุเกิดได้จากหลายปัจจัยประกอบรวมกัน แต่ปัจจัยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยคืออายุ และแรงโน้มถ่วงของโลก อีกทั้งยังมีสาเหตุหลักอีกคือการที่ผิวขาดคอลลาเจนนั่นเอง
คอลลาเจนคืออะไร?
คอลลาเจน (Collagen) เป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง สามารถพบได้มากที่สุดในร่างกาย คอลลาเจนจะมีลักษณะเป็นสายเกลียว ร้อยเรียงกันเป็นเส้นใย ซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันของกรดอะมิโนหลาย ๆ ชนิด ต่อกันเป็นสายยาว (โพรลีนและไกลซีน) คอลลาเจนนั้น เปรียบเสมือนกาว เพราะคอลลาเจนคอยทำหน้าที่เชื่อมเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายให้ติดกัน หรือเป็นการยึดเซลล์ผิวหนัง เอ็น ข้อต่อ พังผืด กล้ามเนื้อ รวมถึงผนังหลอดเลือดให้เชื่อมติดกัน เมื่อผิวขาดคอลลาเจน สิ่งที่ตามมาก็คือ ผิวหย่อนคล้อย, ผิวแห้งกร้าน, ผิวไม่กระชับ, ผิวไม่เต่งตึง, มีริ้วรอย ดูแก่กว่าวัย เป็นต้น
เราไปดูสาเหตุที่ทำให้หน้าอกหย่อนคล้อย หน้าอกไม่กระชับ พร้อมคำอธิบายกันต่อได้เลยค่ะ
อายุ ทำให้การผลิตคอลลาเจนน้อยลง
“อายุ” เป็นหนึ่งในปัจจัยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่เมื่อเราอายุมากขึ้น ประสิทธิภาพในการทำงานของร่างกายก็จะค่อย ๆ น้อยลง รวมถึงประสิทธิภาพในการผลิตคอลลาเจนเช่นกัน เมื่ออายุ 25 ปีขึ้นไป ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนลดลงปีละ 1% ยิ่งอายุมากขึ้นเท่าไหร่ ผิวก็จะยิ่งขาดความชุ่มชื้น ขาดความเต่งตึง เดิมที่หน้าอกเต่งตึง ก็จะกลายเป็นหน้าอกคล้อย หน้าอกยาน ยิ่งเป็นคนที่มีอายุมาก ๆ ปัญหานมยานก็ยิ่งมา
แรงโน้มถ่วงของโลก ทำให้ผิวหย่อนคล้อย
โลกของเรามีแรงโน้มถ่วงที่จะดึงทุกสิ่งที่ลอยได้ ให้ตกลงมา เมื่ออายุมากขึ้น ผิวก็จะสูญเสียคอลลาเจนและความยืดหยุ่นเต่งตึง ทำให้ผิวที่สูญเสียความกระชับตกลงมาตามแรงโน้มถ่วงโลก และทำให้ผิวของเราค่อย ๆ หย่อนคล้อยมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น ยิ่งเรามีหน้าอกใหญ่มากเท่าไร หน้าอกก็ของเราก็หย่อนลงมามากขึ้นเท่านั้น เพราะน้ำหนักของหน้าอกที่มาก ทำให้เกิดการห้อยลงไปด้านล่างตลอดเวลา เป็นผลให้หน้าอกหย่อนคล้อย หน้าอกยาน หน้าอกไม่กระชับ
การตั้งครรภ์ และให้นมลูกหลังคลอด
ช่วงที่ตั้งครรภ์ หน้าอกจะใหญ่ขึ้น บางคนก่อนตั้งครรภ์หน้าอกมีขนาดคัพ A แต่พอตั้งครรภ์หน้าอกก็จะขยายตัวใหญ่ขึ้น เพิ่มขึ้นเป็นคัพ C เมื่อเลิกให้นมบุตร หรือน้ำนมแห้ง หน้าอกก็จะเล็กลง เนินหน้าอกและเนื้อหน้าอกก็จะหายไป จึงทำให้หน้าอกที่เคยอวบอึ๋ม มีขนาดใหญ่ หน้าอกเต่งตึง กลายเป็นนิ่มเหลว หน้าอกหย่อนคล้อย หน้าอกไม่กระชับ ส่งผลให้ใส่เสื้อผ้าไม่สวยงาม
การลดน้ำหนักแบบผิดวิธี หรือลดอย่างรวดเร็ว
การลดน้ำหนัก หรือการสูญเสียน้ำหนักอย่างรวดเร็ว จะทำให้เนื้อหน้าอก หรือเนินหน้าอกหาย หน้าอกของเราประกอบไปด้วยไขมัน และโปรตีน เมื่อเราลดน้ำหนักลง ร่างกายจะดึงพลังงานสะสมในร่างกายมาใช้ก่อน ดังนั้นสิ่งแรกที่จะลดลงคือไขมัน โดยที่เราไม่สามารถเลือกได้ว่าจะให้ร่างกายดึงไขมันจากส่วนไหนมาใช้ ทำให้ไขมันที่อยู่บริเวณเนินอกได้รับผลกระทบ และค่อย ๆ หายไป ทำให้หน้าอกหย่อนคล้อย และหน้าอกยาน
พฤติกรรม และบุคลิกภาพของแต่ละคน
พฤติกรรม หรือบุคลิกบางอย่าง อาจส่งผลทำให้กล้ามเนื้อหน้าอกเสื่อมสภาพลงได้ รวมทั้งอาจส่งผลกับเส้นยึดเต้านมขาดความยืดหยุ่น ทำให้หน้าอกไม่กระชับ เต่งตึงดังเดิม พฤติกรรมดังกล่าวได้แก่ การนั่งห่อไหล่ และนั่ง ยืน เดินหลังค่อม และรู้หรือไม่ว่า การนอนก็สามารถทำให้หน้าอกเหี่ยวได้! การนอนคว่ำ หรือนอนตะแคง เป็นเวลานาน จะทำให้หน้าอกมีแรงกดทับ ทำให้หน้าอกเสียรูปทรง และมีความหย่อนคล้อยมากขึ้น
การสวมบราที่มีขนาดไม่พอดีกับหน้าอก
การเลือกขนาดบราก็สำคัญเช่นกัน หากเลือกบราที่มีขนาดเล็กเกินไป ก็จะทำให้การไหลเวียนโลหิตไม่ดี การเลือกบราที่มีขนาดใหญ่เกินไป ไม่กระชับพอดีกับหน้าอก ใส่แล้วหลวม ทำให้หน้าอกยานลงมา บราที่ดี ควรเลือกบราที่มีขนาดพอดีกับหน้าอก ช่วยยกกระชับหน้าอกขึ้นเล็กน้อย พร้อมประคับประคองเต้านมไว้ ไม่ให้หน้าอกหย่อนคล้อยลงตามแรงโน้มถ่วงของโลก
ระดับความหย่อนคล้อยของหน้าอก
โดยทั่วไปเต้านมของคนเราจะไม่เลยเส้นบริเวณฐานหน้าอกลงมา (เส้นใต้ราวนม) หากเต้านมเริ่มคล้อยลงมาใต้ฐานหน้าอก อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าหน้าอกของคุณกำลังจะหย่อนคล้อยก็เป็นได้ ความหย่อนคล้อยของหน้าอก สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระดับ
ระดับที่ 1 ระดับเริ่มต้น หัวนมหรือปานนม อยู่เสมอกับเส้นใต้ราวนม
ระดับที่ 2 ระดับปานกลาง หัวนมหรือปานนม คล้อยต่ำลงมากว่าเส้นใต้ราวนม 1-3 เซนติเมตร
ระดับที่ 3 ระดับคล้อยมาก หัวนม ปานนม หรือเต้านม คล้อยต่ำลงมาใต้ฐานหน้าอก 3 เซนติเมตรขึ้นไป
หน้าอกหย่อนคล้อย สามารถรักษาด้วยวิธีใดได้บ้าง??
การผ่าตัดยกกระชับหน้าอก (Breast Lift)
การผ่าตัดยกกระชับหน้าอก (Breast Lift) เหมาะกับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยของหน้าอกในระดับรุนแรง หรือคล้อยมาก โดยการผ่าตัดนี้ สามารถผ่าตัดได้ 3 วิธี คือการเปิดแผลผ่าตัดรอบปานนม (Donut), การเปิดแผลรอบปานนม และยาวลงมาเต้านมด้านล่าง (Lolipop) และการเปิดแผลเป็นรูปตัว T (Inverted T) ซึ่งจะมีแผลรอบปานนม กรีดยาวลงมาเป็นเส้นตรง และแผลกรีดยาวที่เส้นขอบเต้านมด้วย วิธีนี้มีข้อดีคือสามารถยกกระชับได้ทันที เห็นผลชัดเจน แต่ข้อเสียคือมีแผลเป็น มีความเสี่ยงจากการดมยาสลบ และมีความเจ็บมาก
การยกกระชับหน้าอกด้วย J Plasma
J Plasma (เจพลาสมา) เป็นนวัตกรรมในการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ให้เรียบตึง จากสหรัฐอเมริกา โดยใช้พลังงานฮีเลียมพลาสมา ร่วมกับพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ เข้ามาสร้างพลังงานความร้อนสูงถึง 85 องศาเซลเซียส และสามารถส่งพลังงานเข้าไปในบริเวณที่หย่อนคล้อยได้อย่างตรงจุด ทำให้ผิวหนังกระชับหดตัวขึ้นในทันที แต่มีข้อเสียคือราคาที่ค่อนข้างสูง อ่านข้อมูลเกี่ยวกับ J Plasma เพิ่มเติมได้ที่นี่
การเติมไขมันหน้าอก (Fat Grafting)
การเติมไขมันหน้าอก หรือการฉีดไขมันหน้าอก (Fat Grafting, Fat Transfer, Fat Filler, Lipofilling) เป็นการนำไขมันของตัวคนไข้เองมาเติมเต็มบริเวณหน้าอก โดยการดูดไขมันลดสัดส่วน นอกจากสัดส่วนจะเล็กลงแล้ว หน้าอกยังมีขนาดใหญ่ขึ้น สวยงามขึ้นอีกด้วย หลังการฉีดไขมันหน้าอก หน้าอกเต่งตึงขึ้นอย่างชัดเจน หน้าอกชิด เป็นทรงสวย และดูเป็นธรรมชาติมาก ซึ่งจะมีแผลบริเวณที่ดูดไขมัน (ขนาดแผลเล็กเพียง 4 มิลลิเมตร) และแผลจุดเล็ก ๆ บริเวณใต้ราวนม (ขนาดเท่าหัวปากกา)
ขั้นตอนการเติมไขมันหน้าอก
1.ดูดไขมัน (Liposuction)
แพทย์จะดูดไขมันส่วนเกิน ออกมาจากจุดที่คนไข้กังวลใจ โดยใช้เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet ในการสลายไขมัน การดูดไขมันพลังน้ำใช้พลังน้ำฉีดพ่นเข้าไปที่ชั้นไขมัน เพื่อให้ไขมันที่ติดแน่นกันอยู่ แยกตัวออกจากกันอย่างอ่อนโยน ข้อดีของการสลายไขมันโดยใช้เครื่องดูดไขมันพลังน้ำคือ เซลล์ไขมันที่ได้ไม่ถูกทำลาย เซลล์ไขมันยังมีชีวิตอยู่ มีคุณภาพดี และมีประสิทธิภาพในการนำไขมันไปปลูกถ่ายในบริเวณอื่นต่อ ช่วยให้ไขมันที่เติมเข้าไปติดเร็ว และติดทนนาน
เราสามารถดูดไขมันตรงไหนได้บ้าง?
✔️ ดูดไขมันเหนียง
✔️ ดูดไขมันแก้ม
✔️ ดูดไขมันหน้าท้อง
✔️ ดูดไขมันนมน้อย
✔️ ดูดไขมันเอวเอส
✔️ ดูดไขมันปีกหลัง
✔️ ดูดไขมันต้นแขน
✔️ ดูดไขมันต้นขา
✔️ ดูดไขมันสะโพก
✔️ ดูดไขมันน่อง
✔️ ดูดไขมันข้อเท้า
ทั้งนี้ แต่ละบุคคลมีปริมาณไขมันในแต่ละบริเวณไม่เหมือนกัน ซึ่งก่อนดูดไขมัน จะมีการประเมินโดยแพทย์ ว่าในเคสนั้น ๆ ต้องดูดไขมันกี่จุด จึงจะเพียงพอต่อการฉีดไขมันหน้าอก โดยส่วนมากจะดูดไขมันจากบริเวณหน้าท้อง และต้นขามาเติมไขมันหน้าอก เพราะเป็นบริเวณที่มีไขมันสะสมอยู่มาก
2.คัดแยกเซลล์ไขมัน
นำเซลล์ไขมันที่ได้จากการดูดไขมันพลังน้ำ มาปั่นคัดแยก เอาน้ำเกลือ, ยาชา และเลือด ออกไป เพื่อให้ได้เฉพาะเซลล์ไขมันดี และมีประสิทธิภาพ
3.เติมไขมันหน้าอก
เมื่อปั่นคัดแยกเซลล์ไขมันแล้ว แพทย์จะฉีดไขมันหน้าอกในชั้นใต้ต่อมน้ำนม (Subglandular) โดยใช้เทคนิคพิเศษในการจัดวาง จัดเรียงไขมัน ให้ทำตัวเหมือนเป็น Volume Lift ทำให้หน้าอกกระชับตัวขึ้นมา และหน้าอกเต่งตึงขึ้นทันที ส่วนใหญ่จะเน้นเติมไขมันหน้าอกในบริเวณเนินอก และบริเวณอกชิด การเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง จะทำให้หน้าอกของเราดูเต็มขึ้น ฟูขึ้น เป็นทรงสวยงาม อกแนบชิดติดกัน ผิวสัมผัสบริเวณหน้าอกก็จะเนียน นุ่ม ผิวดูเด็กมากยิ่งขึ้น
ระยะเวลาในการเติมไขมันหน้าอก
ระยะเวลาในการฉีดไขมันหน้าอกจะอยู่ประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง (ไม่รวมกับเวลาในการดูดไขมัน และคัดแยกเซลล์ไขมัน โดยระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ดูด และปริมาณไขมันของคนไข้แต่ละคน)
หลังเติมไขมันหน้าอกจะเจ็บไหม?
หลังฉีดไขมันหน้าอก จะไม่เจ็บปวดทรมานแบบการผ่าตัดยกกระชับหน้าอก แต่จะมีอาการเจ็บเล็ก ๆ คล้ายกับอาการคัดเต้านมเวลามีประจำเดือนเท่านั้น เซลล์ไขมันไม่ใช่สิ่งแปลกปลอมของร่างกาย หากผ่านกระบวนการเก็บไขมัน (ดูดไขมัน) ถูกต้อง ปลอดเชื้อ เก็บไขมันในระบบปิด มีการฆ่าเชื้อที่ดี ก็จะไม่เกิดอันตรายต่อร่างกาย
ฉีดไขมันหน้าอกอยู่ได้นานไหม?
การเติมไขมันหน้าอก คล้ายกับการปลูกถ่ายอวัยวะ แต่เป็นการปลูกถ่ายเซลล์ไขมัน เมื่อไขมันติดแล้ว ก็จะติดเลย กลายเป็นหน้าอกปกติของเรา แต่ความหนาแน่นของมวลไขมันในร่างกาย ไม่ว่าจะบริเวณใดก็ตาม จะแปรเปลี่ยนไปตามอายุ และน้ำหนัก เมื่อน้ำหนักขึ้น (อ้วนขึ้น) ไขมันก็จะใหญ่ขึ้นตามไปด้วย และเมื่อเราอายุมากขึ้นไขมันก็จะค่อย ๆ หายไปตามธรรมชาติ
ทำไมต้องเติมไขมัน ฉีดไขมัน ที่ Amara Clinic
ทีมแพทย์มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์สูง
ทีมแพทย์ของเอมาร่าคลินิก เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการดูดไขมัน และการเติมไขมัน โดนเฉพาะ จบหลักสูตรการดูดไขมันและเติมไขมันระดับพื้นฐาน (Basic Liposuction) และการดูดไขมันระดับสูง (Advance Liposuction) จากประเทศเกาหลีใต้ อีกทั้งทีมแพทย์ยังเข้าร่วมการประชุม เกี่ยวกับการดูดไขมันระดับนานาชาติ (FATS: Forum of Adipose Tissue and Stem Ce||) เพื่ออัพเดทความรู้ และเทคนิคใหม่ ๆ อยู่เสมอ
นอกจากนี้ยังเป็นอาจารย์แพทย์สอนเรื่อง การดูดไขมันและเติมไขมันของ body-jet ที่ได้รับการแต่งตั้งจาก Technical biomed (ผู้ผลิตเครื่องดูดไขมัน จากประเทศเยอรมัน) และยังมีประสบการณ์หลายพันเคส การันตีด้วยรางวัล The Most Body-jet User คลินิกที่มีเคสดูดไขมันพลังน้ำเยอะที่สุดในประเทศไทย
เซลล์ไขมันที่นำมาเติม เป็นเซลล์ไขมันที่มีคุณภาพสูง
เอมาร่าคลินิก เลือกใช้เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ หรือ body-jet ในการทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวออกจากกันอย่างอ่อนโยนด้วยพลังน้ำ และนำเซลล์ไขมันออกมาในสภาพดี มีชีวิตอยู่ สามารถนำไปเติมเต็มได้ เซลล์ไขมันที่นำไปเติมเต็ม จะติดไว ติดทน สลายตัวช้า อีกทั้งในระหว่างที่ดูดไขมันคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บ มีอาการบวมช้ำหลังดูดไขมันน้อย และใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นไม่นาน
เทคนิคการซ่อนแผล จากประเทศเกาหลี
ทีมแพทย์เอมาร่าคลินิก ใช้เทคนิคการซ่อนแผล และเทคนิคการเปิดแผลขนาดเล็ก หลังการดูดไขมัน หรือฉีดไขมัน เติมไขมัน จากประเทศเกาหลีใต้ ทำให้หลังการรักษาแทบมองไม่เห็นแผล คนไข้สามารถสวมเสื้อผ้า โชว์สัดส่วนได้อย่างมั่นใจ นอกจากนี้ยังมีความละเอียด และปราณีตสูงอีกด้วย
เทคนิคการเติมไขมันหน้าอกเฉพาะตัว
ทีมแพทย์เอมาร่าคลินิก มีเทคนิคในการฉีดไขมันหน้าอกเฉพาะตัว โดยการค่อย ๆ วางไขมันเป็นเส้นและเรียงจุดเล็ก ๆ เพื่อความสวยงาม และเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มอัตราการติดของไขมัน ซึ่งเป็นเทคนิคพิเศษ เฉพาะที่ Amara Clinic เท่านั้น
ดูแลอย่างใกล้ชิด เสมือนคนในครอบครัว
เจ้าหน้าที่ และทีมพยาบาล พร้อมให้คำแนะนำในการดูดไขมัน-เติมไขมันอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นก่อนดูดไขมัน การดูแลระหว่างดูดไขมัน และการติดตามอาการหลังดูดไขมันอย่างใกล้ชิด เราดูแลและใส่ใจ เสมือนเพื่อนสนิท และคนในครอบครัว
บทความนี้ จัดทำขึ้นโดย Amara Clinic (เอมาร่า คลินิก) ขอสงวนสิทธิ์ในการห้ามมิให้ผู้ใดใช้ประโยชน์ คัดลอก ทำซ้ำ หรือเผยแพร่บทความนี้ในนามอื่น (ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา, ข้อมูลทั้งหมด หรือบางส่วนก็ตาม) โดยไม่ได้รับอนุญาต หากพบเจอจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย
จองคิวปรึกษา
ดูดไขมันที่เอมาร่า คลินิก
ฟรี! ของแถมสุดพิเศษ !
เฉพาะลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ เท่านั้น