ดูดไขมันที่ไหนดี ดูดไขมัน body jet ดูดไขมัน ราคาไม่แรง ปรึกษา และประเมินโดยแพทย์ ฟรี!! ก่อนตัดสินใจดูดไขมันทุกเคส

ดูดไขมันคืออะไร? ดูดไขมันดีไหม? ดูดไขมันเจ็บไหม? ดูดไขมันอันตรายไหม?

การดูดไขมัน (Liposuction) คืออะไร

   การดูดไขมัน (Liposuction) เป็นการนำไขมันส่วนเกินที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนังออกมา กำจัดทิ้งไป เพื่อให้สัดส่วนบริเวณดังกล่าวเล็กลง การดูดไขมันประกอบด้วย 3 ขั้นตอนคือ ขั้นตอนการ Tumescent, การแยกไขมัน (การสลายไขมัน)ให้แตกตัวออกจากกัน และการนำไขมันออกมา ซึ่งการสลายไขมันนั้น จะใช้พลังงานต่าง ๆ เข้ามาช่วย โดยผ่านเครื่องดูดไขมันนั่นเอง เช่น เครื่องมือที่ใช้พลังงานน้ำ (Water Assisted Liposuction) คลื่นอัลตราซาวด์ (Ultrasound) คลื่นวิทยุ (Radio frequency) การดูดไขมันเหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันส่วนเกินสะสมมาก ในบริเวณหน้าท้อง เอว ต้นแขน ต้นขา และน่องเป็นต้น

   การดูดไขมันในปัจจุบัน มีการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาช่วยในการสลายไขมัน เช่นเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet ไม่จำเป็นต้องดมยาสลบ ใช้เพียงยาชาเท่านั้น ทำให้คนไข้ไม่ต้องอยู่ในสภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น คนไข้จะมีสติดีอยู่ตลอดเวลา ไม่ต้องเสี่ยงว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะตื่นหรือไม่ เป็นกังวล การดูดไขมันในปัจจุบัน จึงมีความปลอดภัยสูงกว่าการดูดไขมันสมัยก่อนมาก และในระหว่างการดูดไขมันคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บ เพราะแพทย์ได้ทำการฉีดยาชาเข้าไปก่อนแล้ว

ทำไมดูดไขมันออกไปแล้ว น้ำหนักไม่ลดลงเลย?

   ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การดูดไขมันนั้นไม่ใช่การลดน้ำหนัก แต่เป็นการลดสัดส่วน เมื่อดูดไขมันไปแล้ว น้ำหนักจะไม่ได้ลดลง แต่จะได้สัดส่วนเล็กลง เพรียวมากขึ้น กล่าวคือไขมันนั้น มีน้ำหนักน้อยมาก เมื่อเทียบกับน้ำหนักของกล้ามเนื้อ แม้ทั้งสองสิ่งนี้จะมีขนาดใหญ่เท่ากัน แต่น้ำหนักของกล้ามเนื้อ จะมากกว่าน้ำหนักของไขมันถึงสามเท่า ยกตัวอย่างเช่น เรากับเพื่อนน้ำหนักเท่ากัน แต่มีสัดส่วนที่แตกต่างกัน (เราไม่ออกกำลังกาย ทานแต่อาหารทอด ของหวาน มีไขมันสะสมเยอะ แต่เพื่อนกลับหุ่นดี สัดส่วนเล็ก เพราะไม่ทานของหวาน และออกกำลังกาย)

คลิกเพื่ออ่าน : แชร์ประสบการณ์ดูดไขมัน เหลาเอวเอส สร้าง Sexy Line (เคสนี้ปังมาก!)

ฟรี ! ของแถมสุดพิเศษ ! เฉพาะลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ เท่านั้น

ปรึกษากับแพทย์ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
(สามารถกรอกฟอร์มนัดคิวปรึกษาได้ที่ด้านล่าง)

ดูดไขมันอย่างไร ให้มีประสิทธิภาพ?

   การดูดไขมันที่มีคุณภาพนั้น ไม่ใช่การที่ดูดไขมันให้ออกมาได้มากที่สุด แต่เป็นการดูดไขมันในปริมาณที่พอเหมาะ ปริมาณจะมากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับสัดส่วน สรีระ มวลไขมัน รวมถึงโครงสร้างร่างกาย ของคนไข้แต่ละคน โดยผ่านการออกแบบจากแพทย์มาแล้ว การดูดไขมันในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจสูงสุด และลดการเกิดผลข้างเคียง เช่นผิวเป็นคลื่น ผิวไม่เรียบได้ ยิ่งถ้าเป็นการดูดไขมันพลังน้ำ จะมีผลข้างเคียงน้อยมาก หลังทำผิวจะเรียบ ไม่เป็นคลื่น สลายไขมันอย่างอ่อนโยน ทำให้เจ็บน้อย หลังทำใช้เวลาพักฟื้นน้อย ที่สำคัญคือไม่เกิดพังผืดอีกด้วย

ดูดไขมัน ตรงไหนได้บ้าง?

   ไขมันจะกระจายอยู่ตามจุดต่าง ๆ ภายในร่างกาย คือไขมันใต้ชั้นผิวหนัง, ไขมันในช่องท้อง, ไขมันที่แทรกตามกล้ามเนื้อ และไขมันที่อยู่ในหลอดเลือด ไขมันที่เราสามารถดูดออกมาได้ มีเพียงไขมันใต้ชั้นผิวหนังเท่านั้น ไขมันในชั้นนี้ไม่เป็นอันตราย แต่มีผลต่อภาพลักษณ์ภายนอก และความสวยงาม ไขมันในชั้นนี้นี่เอง ที่เป็นตัวการทำให้เราดูอวบ ดูอ้วน แต่บางรายที่มีห่วงยางรอบเอว หรือหน้าท้องยื่นเกินไป สาเหตุอาจจะไม่ได้มาจากไขมันใต้ชั้นผิวหนัง จริง ๆ แล้ว เป็นไขมันในช่องท้อง ที่พอกอยู่รอบ ๆ อวัยวะภายใน ไขมันในส่วนนี้ไม่สามารถดูดออกมาได้ จะต้องอาศัยการเผาผลาญของร่างกายเท่านั้น

ภาพจำลองไขมันสะสมในร่างกาย (Human Fat)

ตำแหน่งในร่างกาย ที่สามารถดูดไขมันได้

ดูดไขมันพลังน้ำ ดูดได้ทุกสัดส่วน แผลเล็ก ปลอดภัย ไม่ต้องดมยาสลบ

   เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ สามารถดูดไขมันทั้งตัวได้ ไม่ว่าจะเป็นดูดไขมันกรอบหน้า ดูดไขมันเหนียง ดูดไขมันหน้าท้อง ดูดไขมันเอวเอส ดูดไขมันต้นแขน ดูดไขมันต้นขา ดูดไขมันน่อง ฯลฯ ขึ้นอยู่กับความกังวลใจของคนไข้ และจะรู้ว่าควรดูดไขมันกี่จุด ดูดไขมันต้นขากี่จุด ต้องดูดตรงไหนเพิ่มบ้าง ต้องดูดไขมันหัวเข่าเพิ่มหรือไม่นั้น จะขึ้นอยู่กับปริมาณไขมัน สัดส่วน โครงร่างของคนไข้ และการประเมินของแพทย์

ภาพเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet

“body-jet เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ ที่สุดของนวัตกรรมดูดไขมัน ที่อ่อนโยนที่สุด

   ปัจจุบันนั้น มีเครื่องดูดไขมันหลายชนิด หลากพลังงาน แต่เครื่องดูดไขมันที่ Amara Clinic เลือกใช้ คือเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet นวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากประเทศเยอรมัน ไขมันที่ได้จากการดูดไขมันด้วยเครื่อง body-jet นั้น สามารถนำไปเติมส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ที่บกพร่องได้ เช่นเติมไขมันหน้า ฉีดไขมันหน้าเด็ก, เติมไขมันหน้าผาก, เติมไขมันใต้ตา, ฉีดไขมันขมับตอบ, เติมไขมันร่องแก้ม, ฉีดไขมันแก้มตอบ , เติมไขมันหลังมือ, ฉีดไขมันเสริมทรวงอก และฉีดไขมันก้นเด้ง เป็นต้น

   การดูดไขมันด้วยเครื่อง body-jet สามารถดูดไขมันออกได้ปริมาณมาก แต่ก็ใช้ระยะเวลานานมากขึ้นเช่นกัน วิธีนี้แพทย์จะใช้ยาชาแทนการใช้ยาสลบ เพื่อให้คนไข้ไม่ต้องอยู่ในสภาวะเสี่ยง หรือกึ่งหลับกึ่งตื่น ที่สำคัญจะไม่เกิดการเผาไหม้ ผิวไม่ Burn เส้นประสาทและเส้นเลือด รวมถึงเนื้อเยื่อข้างเคียงไม่ถูกทำลาย มีเลือดออกน้อยมาก เมื่อเทียบกับการดูดไขมันวิธีอื่น ผิวหลังดูดไขมันจะเรียบเนียน ไม่เกิดเป็นคลื่น ไม่เกิดพังผืด มีแผลเล็กหลังทำเพียง 3 – 5 มิลลิเมตรเท่านั้น

body-jet ทำงานอย่างไร?

   Body-jet ใช้เทคโนโลยีพลังน้ำ ฉีดพ่นเข้าไปที่ชั้นไขมัน ในรูปแบบพัด (Fan Shape) เพื่อให้เซลล์ไขมันที่เกาะติดกันแน่น และเกี่ยวพันกับเส้นเลือดเส้นประสาท แยกออกจากกัน ลอยอยู่ในชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ในขณะเดียวกันเซลล์ไขมันก็จะถูกดูดออกมาอย่างอ่อนโยน ช่วยให้เซลล์ไขมันมีคุณภาพที่ดี นำไปเติมเต็ม ปลูกถ่ายต่อได้ (Fat Grafting, Fat Transfer, Fat Filler, Lipoflling) เมื่อดูดไขมันเสร็จแล้ว แพทย์จะใช้เทคนิคซ่อนแผลแบบพิเศษ แผลจึงมีขนาดเล็ก ทำให้หลังดูดไขมันแทบมองไม่เห็นแผล ช่วยให้คนไข้สามารถอวดรูปร่าง เผยสัดส่วนได้อย่างมั่นใจ

ภาพจำลองขั้นตอนการดูดไขมัน

ขั้นตอนที่ 1 Tumescent

แพทย์จะใส่ Tumescent ที่ประกอบไปด้วยยาชา, Adrenaline (ยาที่ทำให้เส้นเลือดหดตัว) และตัวยาอื่น ๆ (ขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิก) เข้าไปในบริเวณที่จะทำการดูดไขมัน เพื่อให้บริเวณดังกล่าวชา และเส้นเลือดหดตัว ทำให้ลดโอกาสที่จะส่งผลกระทบต่อเส้นเลือด เส้นประสาทได้ และในระหว่างที่ทำการดูดไขมันนั้น คนไข้ไม่รู้สึกเจ็บ เมื่อคนไข้ไม่รู้สึกเจ็บ การทำงานของแพทย์ก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ขั้นตอนที่ 2 การสลายไขมัน

body-jet ดูดไขมันพลังน้ำ ใช้พลังน้ำในการสลายไขมัน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแรงดันน้ำ ที่ฉีดพ่นเข้าไปที่ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง เพื่อทำให้เซลล์ไขมันแตกตัว กระจายออกจากกันอย่างนุ่มนวล (ปกติแล้ว เซลล์ไขมันของคนเรา จะเกาะตัวติดแน่นกันคล้ายพวงองุ่น ซึ่งจะมีความหนาแน่นมากน้อยเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)

ขั้นตอนที่ 3 การนำไขมันออกมา

จริง ๆ แล้ว เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet นั้น ในระหว่างการสลายไขมันให้แตกตัวออกจากกัน ตัวท่อก็จะทำหน้าที่ดูดไขมันออกมาพร้อม ๆ กัน ทำให้เซลล์ไขมันลอยกระจายตัวอยู่ในน้ำ ไม่เสียหาย มีชีวิต และมีคุณภาพสูง

ภาพจำลองการทำงานของเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet

ข้อดีของเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet

1. สามารถดูดไขมันได้ทุกสัดส่วนในร่างกาย ตามที่เราต้องการ
2. ดูดไขมันได้ในปริมาณมาก อย่างอ่อนโยน ด้วยพลังงานน้ำ
3. ไม่ต้องดมยาสลบ ใช้เพียงยาชา คนไข้จึงไม่ต้องเสี่ยงอยู่ในสภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น
4. ไม่ต้องพักฟื้นหลังดูดไขมัน ดูดไขมันเสร็จแล้ว สามารถกลับบ้านได้เลย
5. สภาพผิวหลังดูดไขมันเรียบเนียน ไม่ไหม้ ไม่เป็นคลื่น ไม่บุ๋ม ไม่เกิดพังผืด
6. ระหว่างที่ดูดไขมัน คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บปวด เพราะไม่เกิดการเผาไหม้ต่อเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน
7. แผลมีขนาดเล็ก เพียง 3-5 มิลลิเมตร โอกาสที่จะเป็นแผลเป็นนูน (คีลอยด์) น้อย
8. หลังดูดไขมัน คนไข้จะมีอาการบวมน้อย บอบช้ำน้อย
9. เซลล์ไขมันที่ถูกดูดออกมา จะยังมีชีวิตอยู่ และอยู่ในสภาพดี เมื่อนำไปเติมเต็มส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย จะไม่เกิดอาการแพ้ เซลล์ไขมันจะติดดีขึ้น ผิวเปล่งปลั่ง สุขภาพดี และดูเป็นธรรมชาติ

ข้อเสียของเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet

ใช้ระยะเวลาในการดูดไขมันนานกว่าปกติ เพราะเป็นการสลายไขมันอย่างอ่อนโยน โดยใช้แรงดันน้ำค่อย ๆ ฉีดพ่นเข้าไป เซาะให้เซลล์ไขมัน แตกตัวออกจากกัน

หลังการดูดไขมันด้วย body-jet สัดส่วนจะไม่เล็กลงในทันที แต่ละค่อย ๆ ลดลง หลังจากดูดไขมันมาแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ – 1 เดือน

การดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน

   หลังดูดไขมันด้วยเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ หากต้องการให้ผลลัพธ์หลังดูดไขมันออกมาดีที่สุด และพึงพอใจที่สุด ควรดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี จะช่ววยให้บริเวณที่ดูดไขมันบอบช้ำน้อย ลดการเกิดก้อนไต พักฟื้นไว และเห็นผลเร็วค่ะ

1. รับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
2. ทำความสะอาดแผลทุกวันจนกว่าจะตัดไหม
3. ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร
4. หลีกเลี่ยงการกินอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ อาหารทะเล ของหมักดอง
5. งดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้แผลหายช้า
6. งดยาและอาหารเสริมที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด
7. ห้ามให้แผลผ่าตัดโดนน้ำ จนกว่าจะตัดไหม
8. สวมใส่ชุดยกกระชับตามคำแนะนำของแพทย์
9. หลังดูดไขมัน 2 สัปดาห์ ให้เริ่มออกกำลังกายเบา ๆ เพื่อให้ร่างกายเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้ดี และสัดส่วนคงที่

อ่านวิธีดูแลตัวเองหลังดูดไขมันแบบเต็ม ๆ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ “9 วิธีดูแลหลังดูดไขมันอย่างถูกวิธี เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด”

1.ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง

   ทีมแพทย์ Amara Clinic เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ด้านการดูดไขมันและการเติมไขมัน โดยตรงจากประเทศเกาหลีใต้ หลักสูตรการดูดไขมันระดับพื้นฐาน (Basic Liposuction ) และการดูดไขมันระดับสูง (Advance Liposuction) อีกทั้งทีมแพทย์ยังมีความละเอียด และปราณีตสูง ใช้เวลาในการดูดไขมันและเติมไขมัน ประมาณ 3-6 ชั่วโมงต่อเคส ดังนั้นคนไข้ สามารถมั่นใจได้ว่าได้สัดส่วนสวยแน่นอน

2.เทคนิคเฉพาะตัว

   Amara Clinic มีเทคนิคดูดไขมัน เหลาเอวเอส ซึ่งเป็นเทคนิคพิเศษเฉพาะที่ Amara Clinic โดยทีมแพทย์จะทำการดูดไขมันบริเวณหน้าท้องให้เรียบ พร้อมเหลาเอวให้มีความโค้ง เว้า เป็นสัดส่วน S Shape นอกจากนี้ยังมีเทคนิคการซ่อนแผลเฉพาะตัว และเทคนิคการเปิดแผลขนาดเล็ก ทำให้หลังดูดไขมันมาแล้ว แทบมองไม่เห็นแผล ช่วยให้คนไข้สามารถใส่ชุดอวดสรีระ เรือนร่าง ได้อย่างมั่นใจ

3.บริการหลังดูดไขมัน

   หลังการดูดไขมัน เรามีบริการเลเซอร์ลดเลือนรอยดำ รอยแดง รวมถึงการฉีดลดแผลเป็นนูน (คีลอยด์) ฟรี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง จนกว่าคนไข้จะพึงพอใจ

4.ดูแลอย่างใกล้ชิด เสมือนเป็นคนในครอบครัว

   ทีมพยาบาล และเจ้าหน้าที่ พร้อมให้คำแนะนำอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นก่อนดูดไขมัน การดูแลระหว่างดูดไขมัน และการติดตามอาการหลังดูดไขมันอย่างใกล้ชิด ดูแลและใส่ใจเสมือนเป็นคนในครอบครัว

ดูดไขมันที่ Amara Clinic

1. ให้การรักษาโดยอาจารย์แพทย์ด้านดูดไขมันและเติมไขมัน
2. นวัตกรรมดูดไขมันพลังน้ำจากประเทศเยอรมัน
3. ไขมันที่ดูดได้และมีคุณภาพ นำมาเติมเต็มใบหน้า, หน้าอก หรือก้นได้
4. เป็นคลินิกที่มีเคสดูดไขมันด้วย body-jet มากที่สุดในประเทศไทย
5. มีภาพผลการรักษาจากคนไข้จริงหลายพันเคส
6. การันตีสัดส่วนที่เล็กลงอย่างน้อย 1 ไซซ์

ฉีดไขมัน เติมไขมัน ด้วยเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet

   นับวัน ผิวยิ่งลดความเต่งตึงลง กลายเป็นความหย่อนคล้อย เป็นเพราะร่างกายผลิตคอลลาเจนลดน้อยลง ในทุก ๆ ปี การฉีดไขมันจะช่วยเติมเต้มความหย่อนคล้อยนี้ ให้กับมาเด้ง เต่งตึงอีกครั้ง รวมถึงในบริเวณที่มีไขมันน้อย บกพร่อง ขาดไขมัน เช่นร่องใต้ตา ร่องแก้ม การฉีดไขมันจะเข้าไปเติมเต็ม ให้ผิวบริเวณดังกล่าวดูอ่อนเยาว์ลง

   การเติมไขมัน ฉีดไขมัน (Fat Transfer, Fat Grafting, Fat Filler, Lipofilling) เป็นการนำเซลล์ไขมัน จากสัดส่วนที่มีไขมันส่วนเกิน มาปลูกถ่ายในบริเวณที่ขาด หรือบริเวณที่ต้องการเติมเต็ม เพื่อเสริมความมั่นใจ ช่วยแก้ปัญหาผิว ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง อ่อนเยาว์ลง ที่สำคัญคือเติมเต็มส่วนที่ขาดอย่างเป็นธรรมชาติ การเติมไขมันด้วยไขมันตัวเองนั้น มีความปลอดภัยสูง เพราะเซลล์ไขมันที่นำมาเติมเป็นของตัวคนไข้เอง ไม่มีความเสี่ยง ไม่เกิดอาการแพ้ ระคายเคือง อีกทั้งยังมีข้อดีอีกคือส่วนเกิน ยังลดลงอีกด้วย ถือว่าเป็นการทำสวยครั้งเดียว ได้ถึงสองอย่าง ทั้งสัดส่วนเล็กลง รูปร่างดีขึ้น และผิวที่ดูอิ่มเอม อ่อนเยาว์กว่าอายุจริง

เติมไขมันหน้า ฉีดไขมันหน้าเด็ก

การฉีดไขมันหน้าเด็ก เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน สามารถเติมได้หลายจุด ตามบริเวณที่บกพร่อง เป็นวิธีที่ปลอดภัย ไม่มีสารแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง อย่างเป็นธรรมชาติ

1.เติมไขมันหน้าผาก

การฉีดไขมันหน้าผาก จะช่วยแก้ไขริ้วรอยบริเวณหน้าผากที่เห็นได้ชัด ให้จางลง ช่วยให้หน้าผากกลมนูนขึ้น จบปัญหาหน้าผากแบน ขมับตอบ ขมับบุ๋ม อีกทั้งยังทำให้หน้าดูมีมิติมากขึ้น ดูเรียวมากขึ้น ให้ได้ใบหน้ารูปไข่ตามที่สาว ๆ หลายคนต้องการ หรือบางคนอาจะเติมไขมันหน้าผากเพื่อเสริมโหวงเฮง

2.เติมไขมันใต้ตา

หลาย ๆ คนอาจจะมีปัญหาใต้ตาหมองคล้ำ มีสีเข้ม แก้ยังไงก็ไม่หายสักที การฉีดไขมันใต้ตา จะทำให้ความคล้ำดูจางลง เพิ่มความอวบอิ่มให้กับใต้ตา ลดความหย่อนคล้อย ทำให้ผิวดูสุขภาพดีขึ้น พักผ่อนอย่างเพียงพอ

3.เติมไขมันลดริ้วรอย

ริ้วรอยเป็นปัญหากวนใจ ที่เริ่มเกิดได้ เมื่ออายุ 25 ปีขึ้นไป การฉีดไขมันหน้าเด็ก จะช่วยให้ริ้วรอยตื้นขึ้น หรือจางลง ทำให้ไม่หน้าไม่ดูแก่ ดูอ่อนเยาว์ลง

4.เติมไขมันร่องแก้ม

เติมไขมันร่องน้ำหมาก ความหย่อนคล้อยบริเวณร่องแก้ม หรือร่องน้ำหมาก เกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งคอลลาเจนที่ลดน้อยลง ทั้งการนอนน้อย รวมไปถึงน้ำหนักที่ลดลงอย่างรวดเร็ว เมื่อเติมไขมัน จะทำให้บริเวณดังกล่าวดูตื้นขึ้น ใบหน้าอวบอิ่ม เด้ง เต่งตึง ดูเด็กลงอีกครั้ง

ภาพเปรียบเทียบก่อน-หลัง ฉีดไขมันหน้าเด็ก (รีวิวเติมไขมันหน้า)

เติมไขมันหน้าอก ฉีดไขมันเสริมทรวงอก

   ฉีดไขมันตัวเองเสริมทรวงอก จะช่วยให้หน้าอกดูเต่งตึง มีเนิน หน้าอกเป็นทรงสวยงาม เหมาะสำหรับผู้ที่เคยให้นมบุตรมาก่อน เพราะเนินหน้าอกจะหายไป (มีฐานหน้าอกใหญ่ แต่หย่อนคล้อย) คนที่มีหน้าอกหย่อนคล้อยจากอายุที่เพิ่มขึ้น หรือคนที่มีหน้าอกไม่เท่ากัน อีกทั้งยังเหมาะกับคนที่ต้องการเสริมหน้าอก แต่ไม่ต้องการใช้ซิลิโคน ต้องการให้หน้าอกดูเป็นธรรมชาติ การเติมไขมันหน้าอกจะมีแผลเล็กกว่า การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน แผลจะมีเพียงจุดเล็ก ๆ ไม่เป็นรอยกรีดยาว

ภาพเปรียบเทียบก่อน-หลังฉีดไขมันหน้าอก (รีวิวเติมไขมันหน้าอก)

เติมไขมันมือ ฉีดไขมันมือ

   ฉีดไขมันเติมเต็มมือ ช่วยแก้ปัญหามือเหี่ยว มือหย่อนคล้อยก่อนวัยอันควร เมื่อเติมไขมันมือ มือจะดูอิ่มเอมมากขึ้น ดูเต่งตึงอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้สามารถสวมใส่เครื่องประดับได้อย่างสวยงาม

ภาพเปรียบเทียบก่อน-หลังฉีดไขมันหลังมือ (รีวิวเติมไขมันมือ)

เติมไขมันสะโพก ฉีดไขมันก้นเด้ง

   สาว ๆ ก็ฝันอยากจะมีหุ่นเป๊ะ ๆ บางคนมีก้นแฟ่บ ก้นไม่มี ทำให้สัดส่วน รูปร่าง ดูไม่ชัด ใส่เสื้อผ้าแล้วดูไม่สวยงาม หรือบางคนอาจจะมีก้นหย่อนคล้อย การเติมไขมันสะโพกจะให้รูปร่างดูดมี Curves มากยิ่งขึ้น

ภาพเปรียบเทียบก่อน-หลังฉีดไขมันหลังก้น (รีวิวเติมไขมันสะโพก)

ขั้นตอนการเติมไขมัน ฉีดไขมัน ที่ Amara Clinic

1. แพทย์ทำการดูดไขมัน ออกจากบริเวณที่มีไขมันส่วนเกิน หรือบริเวณที่คนไข้กังวลใจ
2. แพทย์นำเซลล์ไขมันที่ดูดออกมา ไปคัดแยกเป็นเซลล์ไขมันที่ดี มีคุณภาพ
3. หลังจากคัดแยกเซลล์ไขมันแล้ว ไปเติมในส่วนที่ต้องการ

มาทำความรู้จักการเติมไขมันเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก

*หมายเหตุ
1. ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย รวมถึงปัญหาของคนไข้แต่ละคน
2. ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล
3. ผลลัพธ์ที่ได้ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับการสวมชุดกระชับ
หลังดูดไขมัน 1 เดือนแรก ควรสวมใส่ 22 – 24 ชั่วโมง/ทุกวัน ถอดออกเฉพาะเวลาอาบน้ำ
หลังดูดไขมัน เดือนที่ 2 – 3 เวลาในการสวมใส่จะขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมิน หลังจากคนไข้สวมใส่ชุดกระชับไปแล้วเป็นระยะเวลา 1 เดือน
หากคนไข้สวมชุดกระชับตามคำแนะนำในเดือนแรก เดือนถัดไปอาจจะสวมใส่เพียง 12 ชั่วโมง โดยคนไข้สามารถเลือกช่วงเวลาในการใส่ได้ว่าจะเป็นช่วงกลางวัน หรือกลางคืน
4. ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด